- เป็นฟิลเตอร์ที่ใช้มากอันดับแรก เพิ่มความสดและความสมดุลของสี เพิ่ม contrast ของภาพเวลาส่องทั่วไปหรือถ่ายภาพ
- ลดความจ้าเวลาสังเกตดวงจันทร์และดาวเคราะห์ ทะลุทลวงหมอกของชั้นบรรยกาศได้ดี
- ใช้เป็นฟิลเตอร์กันฝุ่นเข้าในตัว (การเช็ดฝุ่นบนฟิลเตอร์ง่ายกว่าการถอดกระจกหรือองค์ประกอบเลนส์และกระจกในกล้องออกมาเพื่อทำความสะอาดมาก)
- ขันเข้ากับท้ายของกล้องผสมก่อนติดตั้งอุปกรณ์อื่น
- ผลิตจากแก้วบริสุทธิ์ จึงสามารถใช้ได้โดยไม่ทำให้คุณภาพของภาพลดลง กันการขีดข่วนได้ดี (scratch resstant)
- มีเกลียว 2" มาตรฐาน ใช้ได้กับอุปกรณ์ 2" ทั่วไป
- Clear aperture = 34.4mm (1.35"); น้ำหนัก = 60g; เส้นผ่าศูนย์กลาง = 56.9mm (2.24"); ความหนา = 23.5mm (0.92")
- ผลิตในประเทศไต้หวัน
If you were to use only one filter with your SCT, a Skylight Filter/Dust Seal would be your most versatile choice. This general purpose, Wratten #1A filter improves color saturation and balance, increases visual and photographic contrast, helps to decrease glare in lunar and planetary observing, and penetrates atmospheric haze.
It's also an inexpensive way to protect your investment in quality optics as this filter serves as an effective dust seal. By leaving the Skylight Filter/Dust Seal on when removing or attaching other visual accessories, you prevent dust and other atmospheric contaminants from entering the rear of your telescope. Needless to say, it's much easier to clean a dusty filter than a dusty primary mirror, secondary mirror and corrector plate.
The Skylight Filter/Dust Seal must be threaded onto the rear cell of instrument before any other accessory is installed. The female end attaches to the rear cell of your telescope. All additional accessories then mount onto the exterior/male threads of this filter. This filter has a standard SCT female thread (2"x24tpi) on one side to attach to the male SCT thread on the rear cell of your Celestron or Meade telescope.
Made by GSO of Taiwan, this is the same product that is sold under the brand name of another major telescope manufacturer for a lot more. Clear aperture = 34.4mm (1.35"); Weight = 2.1oz.; Maximum Diameter = 56.9mm (2.24"); Length = 23.5mm (0.92").
วิธีใช้ฟิลเตอร์สี GSO อื่นๆ
#8 Light Yellow (เหลืองอ่อน)
• ดาวพฤหัส: เพิ่มความเด่นของสีแดงและส้มในแถบเมฆ (clouds belts) ของดาวพฤหัส
• ดาวอังคาร: เพิ่มความเด่นของหลุมสีฟ้าโดยลดการกระจายแสงจากบริเวณนั้นและให้แสงสีเขียวผ่าน และเป็นการทำให้เมฆสีเหลืองมีความเด่นชัดขึ้นด้วย
• ดาวยูเรนัสและเนปจูน: เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ในกล้องขนาด 10" ขึ้นไป
• ดวงจันทร์: ทำให้หลุมและภูเขาบนดวงจันทร์เด่นขึ้น โดยเฉพาะกล้องเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 8"
• ดาวหาง: ช่วยให้เห็นส่วนหางได้ง่ายขึ้น ทำให้ขอบส่วนนอกที่จางๆของดาวหาง (coma) ชัดขึ้น
#11 Yellow/Green (เหลือง-เขียว)
• ดาวอังคาร: เพิ่มรายละเอียดของหลุม (Maria) และเน้นช่องว่างของวงแหวน Casini Division ให้ชัดเจนขึ้น
• ดาวพฤหัสและดาวเสาร์: เพิ่ม contrast ให้ลายสีฟ้าและแดง
• ดาวยูเรนัสและเนปจูน: เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ในกล้องขนาด 10" ขึ้นไป
#12 Yellow (เหลือง)
• ดวงจันทร์: เพิ่มรายละเอียดภูเขา หลุมต่างๆ
• ดาวอังคาร: เพิ่มรายละเอียดของบริเวณมืด (dark features) และเมฆที่อยู่ในชั้นบรรกาศที่เบาบาง
• ดาวศุกร์: เพิ่ม contrast ให้กับวงเสี้ยว
• ดาวพฤหัส: ช่วยให้เห็นแถบเมฆ (cloud belts) และ บริเวณขั้ว (polar regions) ได้ดีขึ้น
#15 Dark Yellow (เหลืองเข้ม)
• ดาวอังคาร: ช่วยให้พื้นผิวดาวอังคารและขั้วน้ำแข็งเด่นขึ้น ทำให้หลุมเข้มขึ้น บริเวณทะเลทรายสีส้มสีอ่อนลง ขอบของฝุ่นเมฆสีเหลืองชัดเจนขึ้น
• ดาวพฤหัสและดาวเสาร์: ช่วยให้มองผ่านชั้นบรรยกาศสีฟ้าอ่อนได้ง่ายขึ้น ช่วยให้การสังเกตส่วนขั้วโลกสะดวกขึ้น เพิ่มความเด่นของแถบเมฆที่มีสีส้มและแดง
• ดาวศุกร์: ช่วยเพิ่มความเด่นของรายละเอียดเมฆที่ปกติมี contrast ต่ำ
• ดาวยูเรนัสและเนปจูน: เพิ่มรายละเอียดต่างๆ
• ดาวหาง: ช่วยให้เห็นส่วนหางได้ง่ายขึ้น
#21 Orange (สีส้ม)
• ดวงจันทร์: เพิ่ม contrast ของภูเขา หลุมต่างๆ
• ดาวอังคาร: เพิ่มรายละเอียดขอบพื้นผิวโดยทั่วไป
• ดาวพฤหัส: ช่วยให้เห็นแถบเมฆ (cloud belts) และ red spot
• ดาวเสาร์: ช่วยให้เห็นแถบและขั้ว (belts and poles)
#23A Light Red (แดงอ่อน)
• ใช้งานเหมือน #21 และ #15 แต่ให้ contrast ที่สูงกว่า และให้รายละเอียดของสีฟ้า-เขียวได้ดีกว่า
• ดาวอังคาร: เพิ่มความเด่นให้ขอบรอบภูเขาน้ำแข็ง และพายุฝุ่นสีเหลือง
• ดาวพฤหัสและดาวเสาร์: สำหรับสังเกตเมฆสีฟ้าบนดาวเคระห์ 2 ดวงนี้
• ดาวพุธ: เพิ่ม contrast ระหว่างดาวพุธกับสีท้องฟ้าบนโลกเวลาสังเกตตอนกลางวันหรือช่วงที่ดาวพุธอยู่ใกล้เส้นขอบฟ้า
• ดาวศุกร์: บางครั้งจะเห็นความบิดเบี้ยวของ terminator (เส้นที่แบ่งซีกสว่างกับซีกมืดออกจากกัน)
• ดาวหาง: ช่วยให้เห็นส่วนหางได้ง่ายขึ้น
• แนะนำให้ใช้กับกล้องขนาดมากกว่า 6" ขึ้นไป
#25 Red (แดง)
• ดาวอังคาร: เพิ่มรายละเอียดขอบพื้นผิวโดยทั่วไป
• ดาวพฤหัสและดาวเสาร์: ช่วยให้เห็นบริเวณเมฆที่เป็นสีฟ้า (bluish cloud regions)
• ดาวพุธ: ช่วยให้เห็นดาวพุธได้ง่ายขึ้นท่ามกลางฉากหลังสีฟ้าของท้องฟ้า
• ดาวศุกร์: ช่วยให้เห็นลายเมฆได้ง่ายขึ้น
#29 Dark Red (แดงเข้ม)
• ดาวพุธและดาวศุกร์: สำหรับสังเกตดาวพุธและดาวศุกร์ตอนกลางวัน โดยเฉพาะเส้นแบ่งมือสว่าง (terminator) บนดาวศุกร์
• ดาวอังคาร: หลุมบนดาวอังคารและขั้วน้ำแข็ง
• ดาวพฤหัสและดาวเสาร์: แถมเมฆหลัก (Jovian Belts) ช่วยให้เห็นดวงจันทร์ของดาวพฤหัสขยับผ่านด้านหน้าและเห็นเงาบนดาวพฤหัส
• เนื่องจากระดับความเข้มของสี ขอแนะนำให้ใช้กับกล้องขนาด 8"-10" ขึ้นไปเท่านั้น
#38A Dark Blue (น้ำเงิน)
• ดาวพฤหัส: เป็นฟิลเตอร์สีที่ใช้กันมากสำหรับการศึกษาดาวพฤหัส ลดองค์ประกอบสีแดงและส้มในแถบเมฆ (cloud belts) จึงทำให้ขอบระหว่างแถบเมฆสีแดงและบริเวณรอบๆที่สว่างชัดเจนยิ่งขึ้น ใช้สังเกตพายุยักษ์สีแดง Great Red Spot ได้ดี
• ดาวอังคาร: ใช้สังเกตพายุฝุ่น และประกฏการณ์ "violet clearing" ที่เกิดขึ้นนานๆครั้งนึง และสามารถใช้สังเกตขั้วน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี
• ดาวเสาร์: เพิ่ม contrast กับวงแหวนและเมฆในชั้นบรรยกาศบนดาวเสาร์
• เนื่องจากระดับความเข้มของสี ขอแนะนำให้ใช้กับกล้องขนาด 8"-10" ขึ้นไปเท่านั้น
#47 Violet (สีม่วง)
• Stops red, yellow, and green colors
• ดาวอังคาร: ใช้สังเกตพายุฝุ่น และประกฏการณ์ "violet clearing" ที่เกิดขึ้นนานๆครั้งนึง และสามารถใช้สังเกตขั้วน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี
• ดาวศุกร์: เป็นฟิลเตอร์ที่มีใช้กับดาวศุกร์มากที่สุด เพราะความสามารถในการแยกแยะแถบสีเข้มในบรรยกาศชั้นบนของดาวศุกร์
• ดาวเสาร์: ช่วยเพิ่ม contrast ให้กับโครงสร้างระบบวงแหวน
• ดวงจันทร์: เพิ่มรายละเอียดทั่วไป
• เนื่องจากระดับความเข้มของสี ขอแนะนำให้ใช้กับกล้องขนาด 8"-10" ขึ้นไปเท่านั้น
#56 Green (เขียว)
• ดาวพฤหัส: เพิ่ม contrast ให้ลายสีฟ้าและแดง
• ดาวอังคาร: เพิ่มความเด่นให้ขอบรอบภูเขาน้ำแข็ง และพายุฝุ่นสีเหลือง
• ดาวเสาร์: ช่วยให้เห็นแถบเมฆ (cloud belts)
• ดาวศุกร์: ช่วยให้เห็นรายละเอียดชั้นบรรยกาศ (cloud patterns)
• ไม่เหมาะกับกล้องดูดาวขนาดเล็ก
#58A Dark Green
• ดาวอังคาร: เพิ่มความเด่นให้ขอบรอบภูเขาน้ำแข็ง และพายุฝุ่นสีเหลือง
• ดาวศุกร์: ช่วยให้เห็นรายละเอียดชั้นบรรยกาศ (cloud patterns)
• ดาวเสาร์: ช่วยให้เห็นแถบเมฆ (cloud belts) และขั่วโลกได้ดีขึ้น
• ดวงจันทร์: เพิ่มรายละเอียดทั่วไป
• ท้องฟ้า (โลก): ลดความจ้าของท้องฟ้า
• เนื่องจากระดับความเข้มของสี ขอแนะนำให้ใช้กับกล้องขนาด 8"-10" ขึ้นไปเท่านั้น
#80A Blue (สีฟ้า)
• ดาวพฤหัส: ช่วยให้เห็นแถบเมฆ (cloud belts) และ red spot
• ดาวอังคาร: เพิ่ม contrast ให้เมฆและขั้วน้ำแข็ง
• ดวงจันทร์: เพิ่มความเด่นของภูเขา หลุมต่างๆ
• ดาวศุกร์: ช่วยให้เห็นลายเมฆได้ง่ายขึ้น
#82A Light Blue
• ฟิลเตอร์ที่คนใช้มากพอๆกับ #80A สำหรับดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ใช้เพิ่ม contrast ทั่วไปโดยไม่ให้ความสว่างลดลงมากเกินไป
• ดวงจันทร์: เพิ่มความเด่นของรายละเอียดพื้นผิว
• ดาวอังคาร: ใช้สังเกตประกฏการณ์ "violet clearing" ที่เกิดขึ้นนานๆครั้งนึง และสามารถใช้สังเกตขั้วน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี
• ดาวพฟหัสและดาวเสาร์: เพิ่มความเด่นของแถบเมฆต่างๆ
• ดาวพุธและดาวศุกร์: ช่วยให้เห็นลายเมฆได้ง่ายขึ้น (ให้ผลเหมือน #80A)
• DSO: มีรายงานว่าช่วยให้เห็นกาแล็กซี่ที่สว่างได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ M51 ซึ่งเป็นกาแล็กซี่ที่เห็นจากมุมบน (face-on galaxy) โครงสร้างของแขนต่างๆจะเห็นได้เด่นขึ้น
• ดาวคู่: ช่วยลดความสว่างเพียงพอเพื่อแยกแยะดาวคู่ที่อยู่ชิดกันมาก (binary stars) ออกจากกัน
• ดาวหาง: ช่วยให้เห็นส่วนหางได้ง่ายขึ้น
• มักใช้ซ้อนร่วมกับฟิลเตอร์อื่นเพื่อให้ได้ผลตามต้องการ
Moon Filter
• ลดแสงจ้าในช่วงดวงจันทร์ใกล้เต็มดวง (หรือควรใช้ตลอดสำหรับกล้องดูดาวขนาดใหญ่)
• ช่วยให้สบายตาขึ้น และให้ม่านตาขยายเพื่อเห็นรายละเอียดได้ดีขึ้น
• ลดแสงจ้าเมื่อดูดาวศุกร์หรือวัตถุภาคพื้นดินที่สว่าง (ห้ามใช้ส่องดวงอาทิตย์!)